- โปรแกรมพัฒนาไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม
- ที่มา
- ทำไมต้องเข้าร่วมในโปรแกรมนี้
- โปรแกรมนี้เหมาะกับใคร
- หลักเกณฑ์การคัดเลือกและเงื่อนไขการเข้าร่วมโปรแกรม:
- เส้นทางโปรแกรมบ่มเพาะนักเปลี่ยนแปลงตามแนวทางประกอบการเพื่อสังคม (Incubation Program)
- ระยะเวลาโครงการ-Ideation 4 เดือน
- สิ่งที่จะได้รับจากโปรแกรม-Ideation
- สนใจเข้าร่วมโครงการ
- เรื่องราวนักเปลี่ยนแปลง - #changemakerTH
โปรแกรมพัฒนาไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม
“เพราะการเปลี่ยนแปลง เริ่มจากคนที่ไม่หยุดพยายาม”
โปรแกรมพัฒนาไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม คือ โปรแกรมที่ต้องใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6-7 ชม. ต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องกัน 4 เดือน เพื่อพัฒนาไอเดียจากการสำรวจความถนัดหรือสนใจของเรา และศึกษาข้อมูลสถานการณ์ปัญหา กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จนเจอข้อมูลเชิงลึก ช่องว่าง โอกาส เพื่อนำไปออกแบบไอเดียตั้งต้นและแผนงานเพื่อริเริ่มโครงการหรือกิจการเพื่อสังคมต่อไป
ที่มา
School of Changemakers ได้นำประสบการณ์กว่า 10 ปีในการบ่มเพาะนักเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยมาออกแบบ “โปรแกรมพัฒนาไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม” ซึ่งเป็นระยะที่ 1 (4 เดือน) ของโปรแกรมบ่มเพาะนักเปลี่ยนแปลงตามแนวทางประกอบการเพื่อสังคม(13 เดือน)
โดยในปีนี้เรามีเป้าหมายที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่อายุ 23-30 ปี (Gen Z) ที่มีเวลาในการทำโครงการไม่น้อยกว่า 6-7 ชม. ต่อสัปดาห์ในการพัฒนาศักยภาพของตนเองสู่การเป็นนักเปลี่ยนแปลง ให้ได้เริ่มต้นลงมือทำโครงการเพื่อสังคมจึงเปิดรับสมัคร โปรแกรมพัฒนาไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม (Ideation-Incubation Program) เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มีโอกาสเริ่มต้นพัฒนาไอเดียใน 4 เดือนแรก ก่อนจะเข้าสู่ระยะที่ 2 การทดลองโมเดลการแก้ปัญหาสังคม (Social Model-Incubation Program) อีก 4 เดือน และจบที่ระยะที่ 3 การขยายผลไปสู่การประกอบการเพื่อสังคมจนมีสินค้าหรือบริการที่สามารถสร้างรายได้ (Business Model-Incubation Program) ใน 5 เดือนสุดท้าย
การเรียนรู้ตลอดโปรแกรมเกิดจากการได้ลงมือทดลองทำจริง และได้ปรับปรุงไอเดีย/โมเดล การแก้ไขปัญหาจากผลตอบรับ (Feedback) อย่างต่อเนื่อง โดยมีระบบสนับสนุน ที่มีทั้งโค้ช ที่ปรึกษา เครื่องมือและแนวทางในการพัฒนาโครงการที่เข้าใจง่าย พร้อมทั้งมีเครือข่ายผู้สนับสนุนนักเปลี่ยนแปลง ที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอดทั้งโปรแกรม
นักเปลี่ยนแปลงต้องใช้ความพยายามทำเรื่องที่ไม่คุ้นเคย กล้าที่จะล้มเหลว ล้มแล้วลุกได้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ เปิดใจรับฟังความเห็นต่าง และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ จะเป็นแรงผลักดันให้ทีมนักเปลี่ยนแปลงสามารถแก้ไขปัญหาสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน (Effective, Efficient & Sustainable)
ทำไมต้องเข้าร่วมในโปรแกรมนี้
- โอกาสในการสำรวจ ทดลอง ฝึกฝนตัวเองและทีมว่าเราจะเป็นคำตอบและทางออกให้กับปัญหาได้อย่างไร
- โอกาสในการเปลี่ยนความไม่พึงพอใจ ความเบื่อ ความสิ้นหวังกับปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม เป็นแรงผลักดันให้เราลงไปลงมือแก้ปัญหา ได้เห็นสภาพปัญหาและข้อมูลเชิงลึก (insight) อย่างแท้จริง
- โอกาสในการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการ (soft skills) ที่จำเป็นต่อการทำงานและการใช้ชีวิต
- โอกาสในการเข้าร่วมเครือข่ายนักเปลี่ยนแปลงที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการสร้างเรื่องดีๆ ในสังคมร่วมกัน
- โอกาสในการเริ่มต้นการประกอบการเพื่อสังคมของตนเองในการหารายได้จากการแก้ปัญหาเพื่อสังคม
โปรแกรมนี้เหมาะกับใคร
- คนรุ่นใหม่อายุ 23-30 ปี (Gen Z) ที่สนใจทำโครงการเพื่อสังคม สมัครเป็นทีม 2-5 คน (ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานเพื่อสังคม มาก่อน)
- ต้องการทำเรื่องที่มีคุณค่าและมีความหมาย ริเริ่มโครงการตามแนวทางประกอบการเพื่อสังคมใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมหรือสร้างพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน ผ่านการลงมือทำด้วยช่องว่างและโอกาสของปัญหาที่ตรงกับความสนใจ ความเชื่อ ความรู้ความสามารถของตนเอง ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ของการทำงาน
- มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 4 วันต่อเดือน (ประมาณ 6-7 ชม. ต่อสัปดาห์) ติดต่อกัน 4 เดือน โดยสามารถจัดเวลาเองได้
โปรแกรมนี้จึงไม่เหมาะกับ
- คนที่มีไอเดียในการแก้ไขปัญหาชัดเจนอยู่แล้ว หรือยึดติดกับไอเดียเดิม
- คนที่ยังไม่พร้อมเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างเพื่อปรับเปลี่ยนไอเดียตามข้อมูลที่ค้นพบใหม่
- คนที่หวังจะเห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาอันสั้น เพราะการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนนั้นต้องใช้เวลาและความอดทน ถ้าคุณต้องการเห็นผลลัพธ์ทันที โปรแกรมนี้อาจสร้างความผิดหวังให้คุณได้
- คนที่ไม่ได้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ เพราะโปรแกรมนี้ไม่มีสปอนเซอร์แต่เกิดจากความตั้งใจของเราในการสร้างพื้นที่ให้คนที่อยากสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ลงมือทำจริงๆ โดยระบบสนับสนุนต่อทีมมีมูลค่า 50,000 บาท เราจึงจำเป็นที่จะต้องคัดเลือกคนที่มีความตั้งใจจริงเท่านั้น
หลักเกณฑ์การคัดเลือกและเงื่อนไขการเข้าร่วมโปรแกรม:
- คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมเป็นไปตามข้อกำหนด (อายุ 23-30 ปี สมัครเป็นทีม 2-5 คน)
- จัดทำและแก้ไข worksheet (ในใบสมัคร) เพื่อแสดงถึงความเข้าใจในปัญหาที่ตนเองสนใจอย่างแท้จริง
- มีความมุ่งมั่นตั้งใจ พร้อมเรียนรู้ รับฟังความเห็นผู้อื่น และต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
- ประเด็นปัญหาที่สนใจและแนวทางการแก้ปัญหาสอดคล้องกับความรู้ ความสามารถ ความสนใจของทีม
- ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบในการทำงานด้วยตัวเอง
- ทีมที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโปรแกรม ต้องวางเงินประกัน 3,000 บาท โดยจะได้รับคืนเมื่อเข้าร่วมโปรแกรมจนจบ โดยมีจำนวนการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ไม่น้อยกว่า 80% และนำส่ง Worksheet TOC หากไม่ได้อยู่จนครบโปรแกรม เงินประกันดังกล่าวจะถูกโอนเข้าสู่กองทุนสนับสนุนนักเปลี่ยนแปลง ของ School of Changemakers เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนงานของนักเปลี่ยนแปลงต่อไป
- ขอสงวนสิทธิ์การตัดสินใจจากผู้ดูแลโปรแกรมถือเป็นที่สิ้นสุด
เส้นทางโปรแกรมบ่มเพาะนักเปลี่ยนแปลงตามแนวทางประกอบการเพื่อสังคม (Incubation Program)
เราเชื่อในการเติบโตอย่างเป็นขั้นเป็นตอน จึงออกแบบโปรแกรมที่สร้างพื้นที่การเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว แบ่งออกเป็น 3 โปรแกรมตามลำดับขั้นของการบ่มเพาะ
Ideation – ระยะแห่งการคิดค้นไอเดียสุดปัง (กำลังเปิดรับสมัคร)
นี่คือโปรแกรมนี้ที่กำลังเปิดรับสมัครในขณะนี้ เป็นจุดสตาร์ทสำคัญของการเป็น Changemaker ที่จะช่วยให้คุณค้นพบไอเดียที่ใช่และตอบโจทย์ของปัญหา โดยเน้นการพัฒนาทักษะสำคัญอย่าง Critical Thinking (ทักษะคิดวิพากษ์) Empathy (การเข้าอกเข้าใจ) Problem Knowledge (ความรู้เกี่ยวกับปัญหา) Changemaking Concept (ความรู้ในการสร้างการเปลี่ยนแปลง) และ Analytical Mind (การคิดเชิงวิเคราะห์)
Social Model – ระยะแห่งการทดลอง ปรับปรุง ให้เห็นผลลัพธ์
ช่วงสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาต้นแบบ (Prototype) จากไอเดียที่ปั้นกันมาในระยะแรก และทดสอบโมเดลต้นแบบการแก้ปัญหานั้นๆ กับกลุ่มเป้าหมาย ก่อนจะปรับปรุงแก้ไขจนแน่ใจว่าแก้ปัญหาได้ ถอดเป็นโมเดลการแก้ปัญหา และการเก็บข้อมูลผลลัพธ์ (traction) ของวิธีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อวัดผลกระทบทางสังคม
Business Model – ระยะแห่งขยายผล หารายได้ และสร้างความยั่งยืน
พอเดินทางลองผิดลองถูกกันมาถึงช่วงท้าย ในขั้นนี้คุณจะได้พัฒนาโมเดลธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาสังคม และวางแผนการเติบโตในระยะยาว โดยจะได้ทั้งทักษะด้านการคิดและทดสอบต้นแบบ (Prototyping) การเข้าอกเข้าใจ (ทีม โค้ช และ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย) มีทักษะในการฟังและการถาม (Empathy) ความรู้ในการวัดผลกระทบทางสังคม การกำหนดตัวชี้วัดและการวางแผนการเก็บข้อมูล (Social Impact) เป็นต้น
ด้วยความที่เส้นทางมันยาวไกล และทุกเส้นทางต่างเชื่อมโยงกัน ดังนั้น เราจึงอยากให้ผู้สมัครเข้าร่วมตั้งแต่โปรแกรม ideation ไปจนถึง Business Model ตามลำดับ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ประโยชน์จากโปรแกรมบ่มเพาะอย่างเต็มที่ตามศักยภาพ
ระยะเวลาโครงการ-Ideation 4 เดือน
กิจกรรม | Ideation 4 เดือน (102 ชม.) | Social model 4 เดือน (102 ชม.) | Business model 5 เดือน (132 ชม.) |
ช่วงเวลาโปรแกรม | มิ.ย.-ก.ย. 68 | พ.ย. 68 - ก.พ. 69 | เม.ย.-ส.ค. 69 |
เปิดรับสมัคร | วันนี้ - 16 พ.ค. 68 | 6-24 ต.ค. 68 | 9-20 มี.ค. 69 |
ค่าธรรมเนียม | ไม่มีค่าใช้จ่าย | ไม่มีค่าใช้จ่าย | ไม่มีค่าใช้จ่าย |
1. Pre-incubation จัดทำข้อมูลปัญหาก่อนเข้าโปรแกรม | 20 พ.ค. - 13 มิ.ย. 68
4 สัปดาห์ | - | - |
2. ประกาศผลทีมเข้าโปรแกรม | 16 มิ.ย. 68 | 27 ต.ค. 68 | 23 มี.ค. 69 |
3. ปฐมนิเทศ พบกับโค้ช ตั้งเป้าหมายและวางแผนงาน | 21 มิ.ย. 68
1 ครั้ง 6 ชั่วโมง | 8 พ.ย. 68
1 ครั้ง 6 ชั่วโมง | 4 เม.ย. 69
1 ครั้ง 6 ชั่วโมง |
4. พัฒนาไอเดียหรือโมเดลต้นแบบ/ขยายผล | มิ.ย.-ก.ย. 68
15 สัปดาห์ | - | เม.ย.-มิ.ย. 69
12 สัปดาห์ |
5. ช่วงทดสอบไอเดียหรือต้นแบบ/ขยายผล | - | พ.ย. 68-ก.พ. 69
17 สัปดาห์ | ก.ค.-ส.ค. 69
10 สัปดาห์ |
6. กิจกรรม onsite ทดสอบไอเดียหรือต้นแบบ/ขยายผล | 20 ก.ค. 68
1 ครั้ง 3 ชั่วโมง | 16 พ.ย. 68, 25 ม.ค. 69
2 ครั้ง x 3 ชั่วโมง | 28 มิ.ย., 26 ก.ค. 69
1 ครั้ง x 3 ชั่วโมง |
7. กิจกรรม onsite แชร์ประสบการณ์จากนักเปลี่ยนแปลง | 24 ส.ค. 68
1 ครั้ง 3 ชั่วโมง | 20 ธ.ค. 68
1 ครั้ง 3 ชั่วโมง (online) | 24 พ.ค. 69
1 ครั้ง x 3 ชั่วโมง |
8. ประชุมทีม | 21 มิ.ย., 20 ก.ค., 24 ส.ค., 27 ก.ย. 68
4 ครั้ง x 1 ชั่วโมง | 8 พ.ย., 20 ธ.ค. 68, 25 ม.ค., 28 ก.พ. 69
4 ครั้ง x 1 ชั่วโมง | 4 เม.ย., 24 พ.ค., 28 มิ.ย., 26 ก.ค., 29 ส.ค. 69
3 ครั้ง x 1 ชั่วโมง |
9. สะท้อนคิดและวางแผนการไปต่อ | 27 ก.ย. 68
1 ครั้ง 3 ชั่วโมง | 28 ก.พ. 69
1 ครั้ง 3 ชั่วโมง | 29 ส.ค. 69
1 ครั้ง 3 ชั่วโมง |
รวมชั่วโมงเรียนรู้ | 102 ชั่วโมง | 102 ชั่วโมง | 132 ชั่วโมง |
สิ่งที่จะได้รับจากโปรแกรม-Ideation
โปรแกรม | Ideation | Social model | Business model |
เหมาะสำหรับ | ทีมที่ต้องการหาไอเดียเพื่อริเริ่มโครงการหรือกิจการเพื่อสังคม จากการสำรวจแรงบันดาลใจ หรือเหตุผลที่อยากริเริ่มโครงการหรือกิจการเพื่อสังคม ศึกษาข้อมูลปัญหา กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จนระบุข้อมูลเชิงลึกของปัญหา และพัฒนาออกมาเป็นไอเดียตั้งต้นและแผนงานไปต่อ | ทีมที่ต้องการพัฒนาต้นแบบ (Prototype) จากไอเดียที่มี และทดสอบต้นแบบการแก้ปัญหานั้นๆ กับกลุ่มเป้าหมาย ปรับปรุงแก้ไขจนแน่ใจว่าแก้ปัญหาได้ ถอดเป็นโมเดลการแก้ปัญหา และการเก็บข้อมูลผลลัพธ์ (traction) ของวิธีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อวัดผลกระทบทางสังคม | ทีมที่ต้องการพัฒนาแนวทางและโมเดลการขยายผล โดยทดสอบโมเดลนั้นกับลูกค้าจริง พัฒนาแผนธุรกิจ การเข้าใจลูกค้า การหาต้นทุนและกระแสรายได้ การเริ่มต้นจัดการองค์กร และหารายได้ก้อนแรกจากนักลงทุน กลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ได้รับประโยชน์ |
ทักษะสิ่งที่จะได้รับ | - Critical thinking
ทักษะคิดวิพากษ์ การกำหนดประเด็น และตั้งเป้าหมาย
- Empathy
การเข้าอกเข้าใจ (ทีม โค้ช และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย) มีทักษะในการฟังและการถาม
- Problem knowledge
ความรู้เกี่ยวกับปัญหานั้นๆ
- Changemaking concept
ความรู้ในการสร้างการเปลี่ยนแปลง
- Analytical Mind
การค้นคว้าข้อมูล คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาใช้งานและตัดสินใจ | - Prototyping
ทักษะการคิดและทดสอบต้นแบบ
- Empathy
การเข้าอกเข้าใจ (ทีม โค้ช และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย) มีทักษะในการฟังและการถาม
- Social Impact
ความรู้ในการวัดผลกระทบทางสังคม การกำหนดตัวชี้วัด และการวางแผนการเก็บข้อมูล
- Social Model
ความรู้ในการคิดนวัตกรรมทางสังคมเพื่อแก้ปัญหาจากข้อมูลเชิงลึก
- Pioneer spirit
การกล้าลองผิดลองถูก มีเป้าหมาย การรับฟีดแบ็ค และเรียนรู้จากลงมือทำ | - Communication for change
ทักษะการสื่อสารเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง
- Collective Leadership & Team management
ทักษะการนำร่วม และการบริหารทีมในสไตล์ของตัวเอง
- Customer Analysis
ความรู้ในการวิเคราะห์ความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมลูกค้า
- Business Model
ตวามรู้ในการคิดโมเดลทางธุรกิจ การหารายได้ ต้นทุน และการขาย
- Striving will
การตั้งใจทำอย่างจริงจัง ไม่ล้มเลิกโดยง่าย ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ ขอความช่วยเหลือเป็น |
ระบบสนับสนุน | - โปรแกรมบ่มเพาะ ไม่มีการจัดอบรม แต่จะเป็นการทำงานจับคู่โค้ช 1 คน ต่อ 1 องค์กร ที่นัดประชุม online เพื่อทำงานร่วมกัน เดือนละสองครั้ง (ทีมสามารถเลือกเวลาเองร่วมกับโค้ชได้)
- Team meeting ประจำเดือนเพื่อพบปะพูดคุยกับทีมร่วมรุ่นอัพเดตความก้าวหน้าและสร้างเครือข่าย
- กิจกรรมแชร์ประสบการณ์ (Sharing) ทาง online จากนักเปลี่ยนแปลงที่เคยผ่านเครื่องมือต่างๆ มาแบ่งปันประสบการณ์และกรณีศึกษาของตัวเอง
- กิจกรรมวันส้มภาษณ์ (empathy day) จัดเตรียมตัวแทนกลุ่มเป้าหมายสำหรับการสัมภาษณ์ให้กับทีมในประเด็นต่างๆ | - โปรแกรมบ่มเพาะ ไม่มีการจัดอบรม แต่จะเป็นการทำงานจับคู่โโค้ช 1 คน ต่อ 1 องค์กร ที่นัดประชุม online เพื่อทำงานร่วมกัน เดือนละสองครั้ง (ทีมสามารถเลือกเวลาเองร่วมกับโค้ชได้)
- Team meeting ประจำเดือนเพื่อพบปะพูดคุยกับทีมร่วมรุ่นอัพเดตความก้าวหน้าและสร้างเครือข่าย
- กิจกรรมแชร์ประสบการณ์ (Sharing) ทาง online จากนักเปลี่ยนแปลงที่เคยผ่านเครื่องมือต่างๆ มาแบ่งปันประสบการณ์และกรณีศึกษาของตัวเอง
- กิจกรรมวันทดสอบต้นแบบ (prototype-testing day) จัดเตรียมตัวแทนกลุ่มเป้าหมายสำหรับการทดสอบต้นแบบให้กับทีมตาม persona ต่างๆ | - โปรแกรมบ่มเพาะ ไม่มีการจัดอบรม แต่จะเป็นการทำงานจับคู่ โค้ช 1 คน ต่อ 1 องค์กร ที่นัดประชุม online เพื่อทำงานร่วมกัน เดือนละสองครั้ง (ทีมสามารถเลือกเวลาเองร่วมกับโค้ชได้)
- Team meeting ประจำเดือนเพื่อพบปะพูดคุยกับทีมร่วมรุ่นอัพเดตความก้าวหน้าและสร้างเครือข่าย
- กิจกรรมแชร์ประสบการณ์ (Sharing) ทาง online จากนักเปลี่ยนแปลงที่เคยผ่านเครื่องมือต่างๆ มาแบ่งปันประสบการณ์และกรณีศึกษาของตัวเอง
- กิจกรรมวันนำเสนอ (sharing day) จัดเวทีการนำเสนอโมเดลการหารายได้ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ให้คำแนะนำ และแนวทางในการขยายผล |
สนใจเข้าร่วมโครงการ
หากคุณตอบ ‘ใช่’ ทั้ง 5 ข้อด้านบน #นายก็เป็นได้นะchangemakersน่ะ
มาเริ่มต้นกับเราในโปรแกรมบ่มเพาะพัฒนาไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม
สมัครได้เลยที่ https://bit.ly/incu2025_app
ตั้งแต่วันนี้-16 พ.ค. 68
เรื่องราวนักเปลี่ยนแปลง - #changemakerTH
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม
ยุรนันท์ ยิ้มสาระ (ทอม) โทร. 087-5636315